ประวัติความเป็นมา
since1922
Glico's history
ประวัติศาสตร์แห่งความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
ในปี ค.ศ. 1919 นายริอิจิ เอซากิ ผู้ก่อตั้งบริษัท ค้นพบว่ามีสารไกลโคเจนจำนวนมากในน้ำต้มหอยนางรม จึงได้ริเริ่มการคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารที่นำสารไกลโคเจนมาใช้
จากการที่นายริอิจิได้ให้สารไกลโคเจนกับลูกชายที่ป่วยเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่และสามารถช่วยชีวิตของลูกได้ เขาจึงมีความคิดอย่างแน่วแน่ที่จะเผยแพร่เรื่องนี้ไปให้ผู้คนในโลกได้รู้
ในที่สุดจึงได้ ขนมเสริมสุขภาพ “Glico Caramel” ขึ้นมา
บริษัท Ezaki Glico เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นจากความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะ “พัฒนาสมรรถภาพทางกายของผู้คนด้วยผลิตภัณฑ์อาหาร”
ค.ศ. 1922 - ค.ศ. 1945
ก่อตั้งบริษัท
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1922 ได้เริ่มวางจำหน่าย “Glico Caramel” ขนมเสริมสุขภาพกล่องสีแดง ในห้างสรรพสินค้ามิทสึโคชิซึ่งเป็นห้างเก่าแก่ในโอซาก้า หลังจากนั้นจนถึงช่วงต้นของยุคโชวะ บริษัทได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ขยายธุรกิจไปยังประเทศจีน และสร้างโรงงานโตเกียวขึ้นใหม่ แต่ทว่า ในปี ค.ศ. 1945 สูญสิ้นทรัพย์สินทั้งหมดทั้งในและต่างประเทศเนื่องมาจากการโจมตีทางอากาศและการสิ้นสุดลงของสงครามโลกครั้งที่ 2
ค.ศ. 1946 - ค.ศ. 1970
25 ปีหลังก่อตั้งบริษัท
ด้วยความคิดที่ว่า “เรายังมีทรัพย์สินที่ไม่ได้มอดไหม้ไปในไฟสงคราม ซึ่งก็คือชื่อของ Glico นั่นเอง” หลังจากสงครามสิ้นสุด จึงได้เริ่มต้นใหม่โดยเริ่มจากการรับจ้างผลิตบิสกิต และกลับมาผลิต “Bisco” อีกครั้ง ต่อมา “Glico Caramel” ก็ได้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากนั้น ได้ผลิตสินค้าที่ติดตลาดออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น “อัลมอนด์ ช็อกโกแลต” “เพรทซ์” “ไจแอนท์ โคน” และ “ป๊อกกี้”
ค.ศ. 1971 - ค.ศ. 1995
50 ปีหลังก่อตั้งบริษัท
ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนเริ่มอุดมสมบูรณ์ขึ้นและมีความต้องการอาหารประเภทของหวานเพิ่มขึ้น จึงได้ออกสินค้าขึ้นมาใหม่นำโดย “Pucchin Pudding” “Café au Lait” “พาแนปป์” “เซเว่นทีน ไอซ์” ส่วนในด้านการวิจัย ได้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยขึ้นและเริ่มทำการวิจัยพัฒนาอย่างจริงจัง
ค.ศ. 1996 เป็นต้นไป
75 ปีหลังก่อตั้งบริษัท
ผู้คนใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้ “อาหารฟังก์ชั่น” เช่น ทำให้ผ่อนคลาย ป้องกันฟันผุ ฯลฯ และสินค้าที่ “แคลอรี่ต่ำ” “ไม่ใช้น้ำตาล” เป็นที่ต้องการมากขึ้น อีกทั้ง ด้วยการที่ระบบสารสนเทศและโลกาภิวัตน์พัฒนาขึ้น จึงทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถลิ้มลองรสชาติของสินค้า Glico ได้
