นาย ริอิจิ เอซากิ ผู้ก่อตั้งบริษัท ค้นพบสารไกลโคเจนที่อยู่ในน้ำซุปที่ต้มหอยนางรม

คิดค้นและผลิตขนมเสริมสุขภาพ “Glico Caramel” และทดลองจำหน่าย

ชื่อ “Glico” ที่ฟังแล้วรื่นหู หีบห่อที่เป็นรูปนักวิ่งยกสองมือเข้าเส้นชัย และคาราเมลรูปหัวใจ ล้วนเป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาในตอนที่ออกวางตลาดในสมัยนั้น

วางจำหน่าย “Glico Caramel” ที่ห้างสรรพสินค้ามิทสึโคชิ ต่อมา วันที่ 11 กุมภาพันธ์ถือเป็นวันก่อตั้งบริษัท Ezaki Glico.

ด้วยแนวคิดที่ว่า หากได้วางสินค้าในร้านค้าชั้นหนึ่ง ผู้คนก็จะเห็นว่าสินค้าเราเป็นสินค้าชั้นหนึ่งด้วย ในตอนนั้น กูลิโกะจึงพยายามไปเจรจาที่ห้างสรรพสินค้ามิทสึโคชิที่เป็นห้างเก่าแก่ในโอซาก้าหลายต่อหลายครั้ง จนได้วางจำหน่ายสินค้า “Glico Caramel” ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน จากนั้นต่อมา ได้มีช่วงที่ลำบากอีกหลายครั้ง แต่โดยการปรับปรุงรสชาติและความพยายามในการจำหน่าย ฯลฯ กูลิโกะจึงได้ผ่านพ้นวิกกฤต และขยายช่องทางการตลาดออกไปอย่างกว้างขวาง

สร้างโรงงานโตโยซากิขึ้นใหม่ที่โตโยซากิ เขตคิตะ ในจังหวัดโอซาก้า

คิดริเริ่มใส่ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ เป็นของแถมในกล่องขนม

ด้วยความคิดที่ว่า “การกิน” กับ “การเล่น” ถือเป็นภารกิจใหญ่ 2 อย่างของเด็ก ในปี ค.ศ.1922 กูลิโกะจึงบรรจุ “แผ่นภาพ” ไปกับขนม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของของเล่นของกูลิโกะ ต่อมา ในปี ค.ศ.1927 เริ่มการบรรจุของเล่นชิ้นเล็ก ๆ หลังจากนั้นมา 2 ปี ในปี ค.ศ.1929 “กล่องของเล่นจิ๋ว” ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

ติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้ากูลิโกะอัตโนมัติที่มีจอฉายภาพยนตร์ในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ในโตเกียว

สร้างโรงงานโอซาก้าขึ้นใหม่ในอุตะจิมะ เขตนิชิโยโดงาวะ ในจังหวัดโอซาก้า ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ในปัจจุบัน

สร้างโรงงานต้าเหลียนในประเทศจีน ขยายธุรกิจไปยังจีนแผ่นดินใหญ่และทางใต้

ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุขภาพแม่และเด็ก

นายริอิจิ เอซากิ มีความปรารถนาตั้งแต่ต้นที่จะนำกำไรที่ได้จากการประกอบธุรกิจไปบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ตามคำสอนของบิดาและปรมาจารย์ด้านการค้าขาย จึงได้นำทรัพย์สินส่วนตัว 50,000 เยนก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุขภาพแม่และเด็ก และพยายามที่จะส่งเสริมสุขภาพของแม่และเด็ก ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีกระทรวงสาธารณสุขในประเทศญี่ปุ่น

ติดตั้งหอคอยนีออนขึ้นที่เอบิซึบาชิ ย่านมินามิ โอซาก้า

ป้ายนีออนของกูลิโกะที่ติดตั้งอยู่ที่โดทงโบริ ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ป้ายกูลิโกะที่ติดตั้งในตอนแรกมีความสูงถึง 33 เมตร และได้ทำการประชาสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่องหลายรุ่นด้วยการออกแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น รุ่นที่ 2 เป็นรุ่นที่มีเวทีพิเศษ และรุ่นที่ 3 เป็นรุ่นหอคอยนีออนที่มีน้ำพุพุ่งออกมา จนมาถึงรุ่นที่ 6 ซึ่งเป็นป้ายกูลิโกะในปัจจุบันที่เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED

สร้างโรงงานโตเกียวขึ้นใหม่

โรงงานโอซาก้ากับโรงงานโตเกียวโดนระเบิดจากการโจมตีทางอากาศจนไหม้หมดทั้งหลัง
สูญเสียโรงงานและทรัพย์สินทั้งในและนอกประเทศ จากการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

สร้างโรงงานโอซาก้าและโรงงานโตเกียวขึ้นใหม่อีกครั้ง

สร้างโรงงานคิวชูขึ้นใหม่

ก่อตั้งบริษัท Ezaki Glico Foods Co., Ltd.
ก่อตั้งบริษัท Glico Dairy Co., Ltd.

เริ่มต้นการผลิตแป้งสาลี

มีการควบรวมกิจการบริษัท Glico Dairy Co., Ltd. 7 แห่ง

ก่อตั้งบริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด

เปิด The Ezaki Memorial Museum

เป็นพิพิธภัณฑ์ของกูลิโกะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการก่อตั้งบริษัทครบรอบ 50 ปี พิพิธภัณฑ์นั้ได้จัดแสดงทั้งประวัติความเป็นมาของสัญลักษณ์นักวิ่งเข้าเส้นชัยและของเล่นที่เคยมีมาในอดีต รวมถึงสิ่งของที่ ริอิจิ เอซากิ ผู้ก่อตั้งบริษัทเคยใช้เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ในปี ค.ศ.2008 พิพิธภัณฑ์ได้รับการรับรองจากกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมให้เป็นมรดกทางอุตสาหกรรมสมัยใหม่ และในปี ค.ศ.2017 ได้รับการขึ้นทะเบียนจากเมืองโอซาก้าให้เป็นทรัพยากรภูมิทัศน์ของเมือง

บริษัท Ezaki Glico Foods Co., Ltd. และบริษัท Glico Ham Co., Ltd. ควบรวมกิจการเป็นบริษัท Glico Foods Co., Ltd.
ก่อตั้งบริษัท General Biscuit Glico France (GBGF) และวางจำหน่าย “Mikado” ในยุโรป

จัดตั้งห้องปฏิบัติการชีวเคมี

เปิดโรงงานสำหรับทัศนศึกษา Glicopia Kobe

เป็นโรงงานที่สามารถชมและศึกษากระบวนการผลิต ป๊อกกี้รสช็อกโกแลต และ เพรทซ์ ได้ใกล้ ๆ ระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มเปิดตัวโรงงาน มีผู้มาเข้าชมมากกว่า 2 ล้านคน (ครบ 2 ล้านคนเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ในปี ค.ศ.2017)

ประกาศใช้ปรัชญาองค์กรใหม่ “สุขสันต์แห่งชีวิต ที่สุดแห่งรสชาติ”
ประกาศใช้ Glico Spirit “การสร้างสรรค์พัฒนา ความสนุกกับงานและความกระตือรือร้น”
ประกาศใช้โลโก้ใหม่

ก่อตั้งบริษัท Shanghai Glico Foods Co., Ltd.

เปิดเว็บไซต์กูลิโกะ

เปิดตัวป้ายนีออนกูลิโกะรุ่นที่ 5

ป้ายนี้แสดงถึงนักวิ่งที่กำลังวิ่งอยู่ในเมืองโอซาก้า โดยวาดฉากหลังเป็นอาคารและสิ่งก่อสร้างเด่น ๆ ของโอซาก้า เช่น ปราสาทโอซาก้า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง โอซาก้าโดม (ปัจจุบันคือ เคียวเซราโดม โอซาก้า) หอคอยซึเทนคาคุ เป็นต้น

กำหนดให้วันที่ 11 เดือน 11 เป็น “วันป๊อกกี้และวันเพรทซ์”

บริษัท Glico Dairy Co., Ltd. เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท Glico Dairy Products Co., Ltd.
และเป็นบริษัทย่อยของบริษัท Ezaki Glico Co., Ltd. 100%
บริษัท Ezaki Glico และบริษัทผู้ผลิตในเครือทั้งหมดได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO14001 (ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม)

บริษัท ICREO เข้าร่วมในกลุ่มบริษัทกูลิโกะ

เริ่มพัฒนาธุรกิจของ Office Glico
กำหนดระเบียบวินัยของกลุ่มบริษัทกูลิโกะ

ก่อตั้งบริษัท Ezaki Glico, USA Co., Ltd.

รถ Glico Wagon ออกวิ่งทั่วประเทศจากฮอกไกโดจนถึงโอกินาวา (ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2010 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2011)

บริษัท Glico Foods Co., Ltd. ได้แบ่งแยกบริษัท
เปิดโรงงานสำหรับทัศนศึกษา Glicopia East
เริ่มจำหน่ายป๊อกกี้ในประเทศอินโดนีเซียและประเทศเวียดนาม

เริ่มจำหน่าย ป๊อกกี้ ในประเทศเกาหลีใต้
ก่อตั้งบริษัท Glico-Wings ในประเทศอินโดนีเซีย

โอนหุ้นทั้งหมดของบริษัท Glico Ham Co., Ltd.
เริ่มวางจำหน่าย ป๊อกกี้ ในประเทศมาเลเซีย
ก่อตั้งบริษัท PT. Glico Indonesia ในประเทศอินโดนีเซีย
เปิดตัวป้ายนีออนกูลิโกะรุ่นที่ 6

บริษัทผู้ผลิตในเครือ 17 แห่ง แผนกการตลาดและแผนกเอสซีเอ็มได้รับการรับรองมาตรฐาน FSSC 22000
ก่อตั้งบริษัท กูลิโกะ โฟรเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท Glico Dairy Products Co., Ltd. รวมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Ezaki Glico Co., Ltd.

เริ่มจำหน่ายไอศกรีมในประเทศไทย
ขยายโรงงานของบริษัท Chiba Ice Cream Co., Ltd.
ก่อตั้งบริษัท Glico Channel Create Co., Ltd.
เริ่มผลิตและจำหน่ายไอศกรีมในประเทศอินโดนีเซีย

ก่อตั้งบริษัท Glico Malaysia Sdn. Bhd.
ก่อตั้งบริษัท Glico Asia Pacific Pte. Ltd.
เปิด Glicopia Chiba.

บริษัทเอซากิกูลิโกะเข้าซื้อกิจการของบริษัท TCHO Ventures, Inc.
ก่อตั้งบริษัท Glico Philippines, Inc.
เปิด Glicopia Kobe ใหม่หลังการปรับปรุงซ่อมแซม

บริษัทเอซากิกูลิโกะรับสืบทอดกิจการยกเว้นฝ่ายการผลิตจากบริษัท Icreo หลังการแยกกิจการ
บริษัท Shojikiya-Nyuhan Dairy Co., Ltd. รวมเป็นส่วนหนึ่งของ Kansai Frozen Co., Ltd.
ก่อตั้งบริษัท Glico North America Holdings, Inc.
ก่อตั้งบริษัท Ezaki Glico Vietnam Co., Ltd.